เปิดใช้รถเมล์ไฟฟ้าอีก 3 สาย ย้ำ! มิ.ย. รถบริการครบ 3,100 คัน 122 เส้นทาง

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ณ สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานพิธีเปิดให้บริการเดินรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (รถเมล์ไฟฟ้า) สาย 3-36 ท่าเรือคลองเตย-ท่าเรือภาษีเจริญ สาย 3-44 ท่าเรือคลองเตย-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ สาย 3-55 ท่าเรือคลองเตย-พระราม 7 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส กรุ๊ป ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ภายใต้แนวคิด “Thai Smile Bus Our Love Will Change The World : รักเรารักษ์โลก” โดยมี น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ บัส กรุ๊ป คณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงาน คำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อตทุกค่ายไม่ต้องสมัคร

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า สำหรับพิธีเปิดให้บริการรถเมล์ไฟฟ้าในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ของปี 66 เป็นกิจกรรมที่สานต่อความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดบริการรถโดยสารพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชนด้วยความร่วมมือของกระทรวงคมนาคมและภาคเอกชน โดยตั้งแต่กลางปี 65 มาจนถึงปัจจุบัน ได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ามาให้บริการกับพี่น้องประชาชนกว่า 1,250 คันใน 77 เส้นทาง อันเป็นการพลิกโฉมภาพลักษณ์ของระบบการขนส่งมวลชนทางถนนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต

ทั้งนี้ในปี 66 กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถผลักดันให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน ใน 45 เส้นทางทำให้ภาพรวมในเดือน มิ.ย. 66 จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการถึง 3,100 คัน ในจำนวน 122 เส้นทาง ซึ่งถือว่าดำเนินการเป็นไปตามแผนปฏิรูป 3 ปี (ในปี 65-67) อย่างไรก็ตาม เมื่อมีรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการ 3,100 คัน จะส่งผลให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจก 500,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ในภาคการขนส่ง 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดเส้นทางรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 เส้นทาง ในย่านคลองเตย ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านใจกลางเมืองที่มีเรื่องราวการตั้งรกรากที่อยู่อาศัยและการค้าขายมาอย่างยาวนาน มีตลาดคลองเตย ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมาหลายสิบปี ผ่านการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น รวมไปถึงสตรีทฟู้ดที่มีให้เลือกสรรมากมาย ไม่มีใครในกรุงเทพมหานครที่ไม่รู้จักคลองเตย นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่กระทรวงคมนาคม ได้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนรถเมล์ที่ให้บริการในย่านนี้มาเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษฝุ่น PM 2.5 

และเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ล้อ-ราง-เรือ ให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางไปสู่สถานที่สำคัญ เช่น สวนลุมพินี สถานีรถไฟหัวลำโพง สำเพ็ง วงเวียนใหญ่ ตลาดพลู ท่าเรือภาษีเจริญ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพระราม 7 และตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้ผลักดันนโยบายเพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ราคาเป็นธรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปฏิรูปเส้นทางเดินรถให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก 

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า รวมไปถึงปรับปรุง แก้ไข กฎระเบียบ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนริเริ่มที่จะนำ รถโดยสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาให้บริการพี่น้องประชาชน และขอความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะที่ราคาประหยัด เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ สำหรับการเดินทางรูปแบบใหม่ในวันนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดทำรูปแบบการชำระค่าโดยสารราคาพิเศษผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตร HOP CARD) เพื่อช่วยลดรายจ่ายในการเดินทาง ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางเฉพาะรถโดยสาร จะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 40 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในรูปแบบรถต่อเรือ จะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 50 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวอีกด้วย

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ณ สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานพิธีเปิดให้บริการเดินรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (รถเมล์ไฟฟ้า) สาย 3-36 ท่าเรือคลองเตย-ท่าเรือภาษีเจริญ สาย 3-44 ท่าเรือคลองเตย-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ สาย 3-55 ท่าเรือคลองเตย-พระราม 7 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส กรุ๊ป ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ภายใต้แนวคิด “Thai Smile Bus Our Love Will Change The World : รักเรารักษ์โลก” โดยมี น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ บัส กรุ๊ป คณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงาน คำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อตทุกค่ายไม่ต้องสมัคร นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า สำหรับพิธีเปิดให้บริการรถเมล์ไฟฟ้าในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ของปี 66 เป็นกิจกรรมที่สานต่อความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดบริการรถโดยสารพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชนด้วยความร่วมมือของกระทรวงคมนาคมและภาคเอกชน โดยตั้งแต่กลางปี 65 มาจนถึงปัจจุบัน ได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ามาให้บริการกับพี่น้องประชาชนกว่า 1,250 คันใน 77 เส้นทาง อันเป็นการพลิกโฉมภาพลักษณ์ของระบบการขนส่งมวลชนทางถนนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต ทั้งนี้ในปี 66 กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถผลักดันให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน ใน 45 เส้นทางทำให้ภาพรวมในเดือน มิ.ย. 66 จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการถึง 3,100 คัน ในจำนวน 122 เส้นทาง ซึ่งถือว่าดำเนินการเป็นไปตามแผนปฏิรูป 3 ปี (ในปี 65-67) อย่างไรก็ตาม เมื่อมีรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการ 3,100 คัน จะส่งผลให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจก 500,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ในภาคการขนส่ง  นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดเส้นทางรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 เส้นทาง ในย่านคลองเตย ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านใจกลางเมืองที่มีเรื่องราวการตั้งรกรากที่อยู่อาศัยและการค้าขายมาอย่างยาวนาน มีตลาดคลองเตย ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมาหลายสิบปี ผ่านการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น รวมไปถึงสตรีทฟู้ดที่มีให้เลือกสรรมากมาย ไม่มีใครในกรุงเทพมหานครที่ไม่รู้จักคลองเตย นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่กระทรวงคมนาคม ได้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนรถเมล์ที่ให้บริการในย่านนี้มาเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษฝุ่น PM 2.5  และเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ล้อ-ราง-เรือ ให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางไปสู่สถานที่สำคัญ เช่น สวนลุมพินี สถานีรถไฟหัวลำโพง สำเพ็ง วงเวียนใหญ่ ตลาดพลู ท่าเรือภาษีเจริญ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพระราม 7 และตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้ผลักดันนโยบายเพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ราคาเป็นธรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปฏิรูปเส้นทางเดินรถให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก  นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า รวมไปถึงปรับปรุง แก้ไข กฎระเบียบ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนริเริ่มที่จะนำ รถโดยสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาให้บริการพี่น้องประชาชน และขอความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะที่ราคาประหยัด เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ สำหรับการเดินทางรูปแบบใหม่ในวันนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดทำรูปแบบการชำระค่าโดยสารราคาพิเศษผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตร HOP CARD) เพื่อช่วยลดรายจ่ายในการเดินทาง ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางเฉพาะรถโดยสาร จะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 40 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในรูปแบบรถต่อเรือ จะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 50 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวอีกด้วย